ถ้าถามว่าจังหวัดอะไรในภาคอีสานที่โด่งดังที่สุด ทุกคนต้องตอบเป็นเสียงเดียวกันว่าคือจังหวัดนครราชสีมา เพราะว่าที่จังหวัดนี้เป็นจังหวัดที่ใหญ่เป็นอันดับหนึ่งในประเทศไทย และยังมีความสำคัญหลายอย่างที่สำคัญต่อคนในภารอีสานด้วย และการ หางานปากช่อง ก็เป็นอีกหนึ่งแหล่งที่ได้รับความนิยม เพราะว่าที่โคราชเป็นจังหวัดที่มีความเจริญครบทุกด้าน  ดังนั้นเราจะมาดูกันก่อนว่าที่จังหวัดนครราชสีมานั้นดีอย่างไร มีความพิเศษเกี่ยวกับเรื่องของเศรษฐกิจเป็นอย่างไรบ้าง และแนวโน้มในการหางานที่โคราช ต่างจากการหางานในกรุงเทพหรือในจังหวัดอื่นๆ อย่างไร  ความพิเศษของการทำงานที่โคราช  1.ตัวเลือกการทำงานที่หลากหลาย  อย่างที่รู้กันว่าจังหวัดนครราชสีมาเป็นจังหวัดที่ใหญ่เป็นอันดับหนึ่งงของประเทศ ดังนั้นตัวเลือกในการหางานจึงเยอะกว่ากว่าจังหวัดอื่นในภาคอีสานแน่นอน มงานหลากหลากรูปแบบให้คุณได้เลือกทำ ไม่ว่าจะเป็นงานที่เกี่ยวกับอุตสาหกรรม งานใช้แรงงาน หรือว่างานในออฟฟิศ ที่นี่ให้ให้คุณได้เลือกครบทุกประเภทตามต้องการ  2.เป็นเมืองหน้าด่าน  ใครที่เดินทางมาจากกรุงเทพ หากจะเดินทางไปภาคอีกสาน ก็ต้องผ่านโคราชก่อนเสมอ หรือคนอีสานที่จะเข้ามาทำงานในกรุงเทพ ก็ต้องผ่านเส้นทางของโคราชก่อนเช่นกัน เพราะเป็นเมืองที่ใหญ่และเป็นเส้นทางหลักในการเดินทาง และด้วยเหตุผลที่ว่าเป็นเมืองหน้าด่าน ความเจริญในตัวเมืองโคราชจึงเยอะกว่าที่จังหวัดอื่น เหมือนกับในกรุงงเทพไม่มีผิด  3.เป็นเมืองแห่งอุตสาหกรรม  ที่โคราชมีสถานที่หลากหลาย ที่เหมาะกับการลงทุนอุตสาหกรรม ตอนนี้ก็มีโรงงานหลาโรงงานเข้ามาตั้งที่โคราช จึงทำให้ที่นี่กลายเป็นอีกหนึ่งนิคมอุตสาหกรรม ที่คนอยู่จังหวัดใกล้เคียงแลละอยู่ภาคอีสาน สามารถเข้ามาทำงานที่นี่ได้ นอกเหนือจากการทำงานที่นิคมอุตสาหกรรมชื่อดังในภาคอื่นๆ  4.เป็นแหล่งท่องเที่ยว  ที่โคราชมีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายเช่นกัน ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นธรรมชาติ และสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นสถานบันเทิง และเมื่อมีสถานที่ท่องเที่ยวเกิดขึ้นหลายอย่างเช่นนี้ งานก็จะตามมาเช่นกัน เพราะนั้นตัวเลือกของการทำงานจึงหลากหลายกว่าเดิม   5.เป็นเมืองที่มีกำลังซื้อสูง  เนื่องจากเป็นจังหวัดใหญ่ และมีพื้นที่เหมาะสมกับการลงทุน ที่สำคัญคือไม่ได้ห่างจากกรุงเทพมากเท่าไหร่ จึงมักเป็นตัวเลือกแรกๆ ของนักลงทุนที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศไทย จึงมีความเป็นไปได้ว่าที่โคราช น่าจะเป็นจังหวัดที่มีความพร้อมในการเป็นเมืองหลวงที่ต่อไปของประเทศไทย อย่างที่หลายคนพูดกัน  6.ความสะดวกสบายในการเดินทาง …

เหล่ายานพาหนะในปัจจุบันนี้ที่ขับเคลื่อนด้วยเชื้อเพลิงดังเช่น ดูเหมือนจะเป็นวิธีการเดินทางที่ไม่น่าสนใจไปเสียแล้ว ถึงแม้ว่าจะยังใช้กันอย่างแพร่หลายอยู่ก็ตาม เพราะว่าเชื้อเพลิงอย่างน้ำมัน ก่อให้เกิดมลภาวะทางอากาศจากการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ของเชื้อเพลิง และยังทำให้ผู้ใช้งานมีค่าใช้จ่ายที่ขึ้นลงไม่แน่นอน ตาราคาของน้ำมันอีกด้วย ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้พลังงานทางเลือกกลายมาเป็นสิ่งที่น่าสนใจสำหรับการเป็นต้นกำเนิดพลังงานของเครื่องจักรที่ขึ้นชื่อว่ายานพาหนะ รถยนต์พลังงานไฟฟ้าและรถจักรยานยนต์พลังงานไฟฟ้า กำลังเป็นที่ถูกพูดถึง และถูกพัฒนากันมาอย่างแพร่หลายในรอบทศวรรษที่ผ่านมา ปัจจุบันในท้องถนน ไปจนถึงในโฆษณาต่างๆ เราเริ่มที่จะเห็นยานพาหนะที่เคลื่อนที่ด้วยพลังงานไฟฟ้าออกมาให้ผู้บริโภคได้ให้ความสนใจและเลือกซื้อมาใช้ในชีวิตประจำวันมากยิ่งขึ้น ซึ่งรถที่ใช้พลังงานไฟฟ้าในการขับเคลื่อนก็มีตั้งแต่รถสี่ล้อ ได้แก่รถยนต์และรถประจำทาง รวมถึงรถสองล้อด้วยเช่นกัน ซึ่งปัจจุบันสองล้อไฟฟ้าก็ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย และรถสองล้อไฟฟ้าราคาถูก ปัจจุบันก็มีอยู่มากมาย เหมาะสำหรับคนที่ต้องการใช้ยานพาหนะที่มีขนาดเล็กกะทัดรัด มีความคล่องตัวในการเดินทาง รวมทั้งผู้ที่ต้องการเดินทางในระยะทางที่ไกลไกลจากกันมาก และเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางระยะสั้นที่ไม่ต้องการออกแรงให้เหนื่อย  และสองล้อไฟฟ้าไม่ได้มีเพียงแต่รถจักรยานยนต์เท่านั้น คำว่าสองล้อไฟฟ้ามีความหมายที่ค่อนข้างกว้าง ตั้งแต่รถสกูตเตอร์ไฟฟ้า รถจักรยานไฟฟ้า ไปจนถึงรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า โดยในแต่ละประเภทก็จะมีหน้าตาแตกต่างและมีรายละเอียดที่ยิบย่อยในการใช้สอยอีกมากมาย  และเมื่อเปรียบเทียบกับการใช้สกู้ตเตอร์แบบปกติ รวมทั้งจักรยานสองล้อแบบปกติ จะพบว่าสองล้อไฟฟ้า สามารถช่วยทุ่นแรงในการเดินทาง และเมื่อนำมาเปรียบเทียบกับรถไฟฟ้าสี่ล้อ หรือที่มีจำนวนล้อมากกว่า มีขนาดใหญ่กว่าสองล้อไฟฟ้า จะพบว่าสองล้อไฟฟ้าใช้พลังงานไฟฟ้าน้อยกว่าในการชาร์จแบตเตอรี่ ทำให้ประหยัดพลังงานและประหยัดเวลามากกว่าการชาร์จรถพลังงานไฟฟ้าที่มีขนาดใหญ่ จึงเหมาะสมกับผู้ที่ใช้เดินทางในระยะที่ไม่ไกลมาก และการใช้พลังงานไฟฟ้าในการเดินทาง ทำให้ผู้ขับขี่ไม่จำเป็นต้องวนหาปั๊มน้ำมันเพื่อเติมเชื้อเพลิงให้กับยานพาหนะของตน แต่สามารถชาร์จพลังงานเข้าในแบตเตอรี่ได้จากไฟฟ้าตามบ้าน ด้วยความสะดวกสบายเช่นนี้ จึงทำให้สองล้อไฟฟ้าได้รับความนิยมที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้บริษัทที่ผลิตสองล้อไฟฟ้าพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ของรถพลังงานไฟฟ้าขึ้นมาเรื่อยๆ ทำให้ในอนาคต เราอาจจะมีโอกาสได้เห็นถนนที่เต็มไปด้วยรถพลังงานไฟฟ้าวิ่งกันอยู่จนทั่วก็เป็นได้

ต้องบอกว่าธุรกิจที่เกี่ยวกับการขนส่งสินค้าหรือขนของ มีให้เราเลือกใช้บริการหลายบริษัท และนับวันการแข่งงขันของธุรกิจที่ประเภทนี้ ยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ และข้อดีของผู้ใช้บริการอย่างเราก็คือ มีตัวเลือกที่มากขึ้น ทำให้ได้ราคาที่ถูกลงกว่าเดิมด้วย แต่ถึงแม้ว่าจะมีตัวเลือกของรถรับจ้างให้เลือกเยอะยังไงก็ตาม ก่อนใช้บริการก็ต้องพิจารณาเลือกอยู่ดี และรถบรรทุกที่ได้รับความนิยมในการขนของขนสินค้ามากที่สุดก็คือ รถกระบะรับจ้าง กับรถบรรทุก 6 ล้อ ซึ่งทั้งสองประเภทนี้จะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันหลายอย่าง และบางท่านก็ยังไม่เข้าใจว่าจะเลือกแบบไหนดี ดังนั้นเราจะมาดูกันว่าความแตกต่างของรถทั้งสองประเภทนี้เป็นอย่างไร และควรจะเลือกรถบรรทุกแบบไหน ความแตกต่างของการใช้รถกระบะ หรือรถหกล้อขนของ 1.มีความคล่องตัวกว่า เนื่องด้วยรถกระบะมีขนาดที่เล็กกว่ารถบรรทุก 6 ล้อ ดังนั้นในการขนบ้านจึงมีความคล่องตัวกว่าการใช้รถบรรทุก 6 ล้อ และที่สำคัญก็คือรถบรรทุกที่มีขนาดใหญ่ จะมีการจำกัดความเร็วเอาไว้ด้วย จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้การขนส่งมีความล่าช้า ต่างจากการใช้รถกระบะ ทีทางผู้จัดส่งสามารถทำเวลาได้เร็วตามที่กำหนดได้ 2.ขนของได้เยอะเช่นกัน หากเป็นรถกระบะที่มีการปรับแต่งมาเพิ่มเติมให้เหมาะกับการขนของ ปริมาณในการขนของรถบรรทุกก็ถือว่าไม่ได้ต่างจากการใช้รถหกล้อเท่าไหร่ แต่ก่อนที่จะเลือกใช้บริการ ในฐานะที่เราเป็นลูกค้า ควรดูให้ดีว่าการเสริมอุปกรณ์เพิ่มเติมของรถกระบะนั่นมีคุณภาพเพียงพอหรือไม่ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าเวลามาขนของของเรา จะไม่เกิดความเสียหายจากตัวรถ หรือเกิดอุบัติเหตุระหว่างทาง 3.ไม่มีจำกัดเวลา ในตัวเมืองของบางจังหวัด หรือในกรุงเทพก็ได้ รถบรรทุกที่มีขนาดตั้งแต่ 6 ล้อขึ้นไป ไม่สามารถเข้าไปวิ่งในกรุงเทพได้ จะวิ่งได้เฉพาะในช่วงเวลาที่ทางกฎหมายกำหนดเท่านั้น ข้อเสียคือทำให้การขนส่งเกิดความล่าช้า ต่างจากรถกระบะรับจ้างที่สามารถวิ่งได้เหมือนกับรถ 4 ล้อทั่วไป จึงทำให้การขนส่งมีความรวดเร็วมากกว่ารถหกล้อ 4.ราคาประหยัด…

กลับมาถึงบ้านมักมีอาการปวดเทา เจ็บเท้าจากการเดินเป็นระยะเวลานานใช่ไหมคะ? บางครั้งรองเท้าที่ใส่อยู่ก็รู้สึกคับ แน่น และเหมือนเลือดจะไหลเวียนไม่ดี เราจึงอยากแนะนำให้คุณลองใส่รองเท้าดี ๆ อย่างรองเท้าเพื่อสุขภาพแบบมีปุ่มนวด เพราะเท้าของเราก็ต้องการการบำรุง   เท้าของเราจริงๆแล้วนั้นสำคัญไม่แพ้กับส่วนอื่นๆของร่างกายเพราะเป็นที่รวมของจุดสิ้นสุดของปลายเส้นประสาทต่าง ๆ การทำการนวดฝ่าเท้าหรือกดจุดตรงฝ่าเท้าจึงมีคุณประโยชน์หลายประการที่จะช่วยให้เราสุขภาพร่างกายแข็งแรงดีขึ้น เช่น ช่วยทำให้เลือดไหลเวียนดี ทำให้เลือดเดินทางไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกยได้ดีมากขึ้น ส่งผลให้เท้าผ่อนคลายจากอาการเมื่อยล้าต่าง ๆ หรืออวัยวะต่างๆ ปรับสมดุลดีขึ้น   ซึ่งการนวดหรือกดจุดในแต่ละครั้งอาจมีค่าใช้จ่ายที่แพง หรือค่อนข้างที่จะเสียเวลาไปตามคลินิกหรือโรงพยาบาล การเปลี่ยนมาเป็นเลือกซื้อรองเท้าเพื่อสุขภาพแบบมีปุ่มนวดจึงเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ควรค่าแก่การลงทุน เพราะเวลาเราใส่เดินไปที่ใด เลือดก็จะสามารถไหลเวียนได้ดี เพราะมีการกระตุ้นการทำงานเกี่ยวกับระบบเส้นปลายประสาท เมื่อเลือดไหลเวียนได้ดี ระบบประสาททำงานดีขึ้นก็ส่งผลต่ออารมณ์ของเราไปด้วย เช่นช่วยทำให้คลายเครียด และผ่อนคลาย ช่วยล้างสารพิษคล้ายกับการฝังเข็มหรือการกดจุด   แต่ รองเท้าในลักษณะนี้ตอนแรกอาจจะคิดว่าเป็นรองเท้าที่ต้องใส่แล้วจะรู้สึกเดินยาก ไม่สะดวก แต่จริงๆแล้วนั้นการออกแบบสอดรับไปกับรูปเท้าของเรา สวมง่าย ใส่สบาย เและเหมือนได้รับการนวดตลอดเวลาสร้างความสมดุลให้กับระบบภายในของร่างกายเรา เมื่อทุกอย่างในร่างกายเราดีขึ้น โดยอาจจะเริ่มจุดเล็ก ๆ อย่างการใส่รองเท้าเพื่อสุขภาพแบบมีปุ่มนวดเป็นสิ่งที่สำคัญที่จะช่วยทำให้เรามีสุขภาพอื่นๆ ที่ดีตามมาด้วย   นอกจากนี้การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายวันละสามครั้งต่อสัปดาห์ และทานอาหารที่มีประโยชน์ก็เป็นสิ่งที่ควรทำควบคู่กันไป เพื่อให้เรามีสุขภาพที่สมดุล สมบูรณ์ แข็งแรง ยั่งยืน และยาวนานค่ะ